The Ordinary

1,2 Hexanediol เป็นตัวทำละลาย ที่ใช้ทดแทน Ethoxydiglycol, Propylene Glycol และ Butylene Glycol สามารถช่วยเก็บกักน้ำได้ดี (water-binding, humectant) และช่วยต่อต้านเชื้อโรคได้ โดยสามารถทำหน้าที่เป็น preservative booster

กลไกการทำงานเป็น Preservative Booster เกิดจาก ลักษณะโมเลกุลของ 1,2-Hexanediol สามารถซึมผ่านเซลล์ของเชื้อโรคต่างๆได้ดี ทำให้สามารถนำพาสารกันเสียชนิดใดๆในสูตร ผ่านเข้าเซลล์ของเชื้อโรคและฆ่าเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัวเองด้วย

Citric Acid กรดซิตริกเป็นสารสกัดที่ได้มาจากผลไม้รสเปรี้ยว และใช้ในปริมาณเล็กน้อยเป็นหลักเพื่อปรับ pH ของผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นด่าง หรือด่างเกินไป กรดซิตริกเป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ด้วยสูตรและความเข้มข้นที่เหมาะสม จึงสามารถผลัดเซลล์ผิวได้

Glycerin (กลีเซอรีน) หรือที่เรียกว่ากลีเซอรอล เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีอยู่ในไขมันตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือผัก สามารถได้มาจากสารธรรมชาติโดยการไฮโดรไลซิสของไขมันและการหมักน้ำตาล นอกจากนี้ยังสามารถผลิตแบบสังเคราะห์

กลีเซอรีน เป็นส่วนประกอบที่ช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิว ซึ่งหมายความว่าเป็นสารที่พบในผิวหนังตามธรรมชาติ ช่วยสร้างสมดุล และความชุ่มชื้นตามปกติ ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ทำงานเพื่อรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิว 

Glycolic Acid (กรดไกลโคลิก) เป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะน้ำ ผลัดผิวที่ตายแล้วเพื่อต่ออายุผิว ซึ่งส่งผลให้สัญญาณแห่งวัยดีขึ้นหลายประการ รวมถึงความเสียหายจากแสงแดด สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวหยาบกร้าน เป็นขุย ริ้วรอยเล็กๆ 

การศึกษายังแสดงให้เห็นว่า Glycolic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างมาก โดยให้ผิวสร้างสาร เช่น mucopolysaccharides ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น โดยการเพิ่มกรดไฮยาลูโรนิกตามธรรมชาติของผิว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น งานวิจัยใหม่พบว่า อาจปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวี 

Glycolic Acid เกิดขึ้นตามธรรมชาติในอ้อย แต่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อสังเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ โดยที่ประสิทธิภาพ และความเข้มข้นของกรดนี้ เหมาะสำหรับใช้ในการดูแลผิว 

Lactic Acid (กรดแลคติก) เป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ที่สกัดจากนม แต่ส่วนใหญ่ที่ใช้ในเครื่องสำอางนั้นเป็นแบบสังเคราะห์ เนื่องจากง่ายต่อการทำให้คงตัว และการกำหนดสูตรด้วย กรดแลคติกจะผลัดเซลล์ผิว โดยทำลายผิวที่ตายแล้ว ปล่อยให้หลุดร่วงตามธรรมชาติ

Lactic Acid ยังมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น นอกจากคุณประโยชน์เหล่านี้แล้ว กรดแลคติคยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว โดยกระตุ้นให้สร้างเซราไมด์มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อไมโครไบโอมของผิวหนัง โดยช่วยรักษาผิวให้แข็งแรง

Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ออกเสียงง่าย อย่างวิตามินบี 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่ม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) หรือที่เรียกว่า Niacin (Nicotinic acid) เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวของเรา ที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม

ตั้งแต่ช่วยลดริ้วรอย และรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดง และอาการระคายเคืองบนผิว ไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีผิวมัน อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว

Panthenol (บางครั้งเรียกว่าโปรวิตามิน B5) เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เนื่องจากมีความสามารถในการดึงดูดและกักเก็บความชื้น เมื่อทาเฉพาะที่จะเปลี่ยนเป็นกรด pantothenic ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติภายในร่างกาย

จากการศึกษาพบว่า panthenol 1% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวอย่างรวดเร็ว การวิจัยยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ความสามารถของแพนธีนอลในการลดรอยแดงที่เกิดจากความไวของผิวหนัง

Salicylic Acid (กรดซาลิไซลิก) เป็นกรดเบต้าไฮดรอกซี ช่วยลดสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว และทำให้รูขุมขนสะอาด กรดซาลิไซลิก ได้ผลดีที่สุดได้ดีกับสิวที่ไม่รุนแรงมาก (สิวหัวดำและสิวหัวขาว) นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวได้อีกด้วย

Sodium Hydroxide หรือที่เรียกว่าน้ำด่าง เป็นส่วนผสมที่มีความเป็นด่างสูง ที่ใช้ในเครื่องสำอางในปริมาณเล็กน้อยเพื่อคงค่า pH ของผลิตภัณฑ์ในสูตรที่เป็นกรดหรือด่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำยาทำความสะอาด และในผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว 

ซึ่งค่า pH ของผลิตภัณฑ์ต้องอยู่ในช่วงที่เฉพาะเจาะจงมากเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด (ระหว่าง 3-4 เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่เป็นกรด ในขณะที่น้ำยาทำความสะอาดโดยทั่วไปจะมีค่า pH 4.5-6)

Sodium Hydroxide พบในผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือเครื่องสำอางที่ไม่ต้องล้างออก

Tartaric acid เป็นกรดอินทรีย์ที่เป็นผลึกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพบได้ในพืชหลายชนิด รวมทั้งองุ่นและมะขาม เป็นกรดหลักชนิดหนึ่งในไวน์ กรดทาร์ทาริกมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและเป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ทำหน้าที่ในการช่วยรักษาช่วง pH 

Xanthan Gum เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยโมเลกุลน้ำตาลหลายโมเลกุลที่เกาะติดกัน ผลิตจากการหมักน้ำตาลอย่างง่าย กระบวนการหมักใช้แบคทีเรีย Xanthomonas campestris ซึ่งเป็นที่มาของชื่อส่วนผสมนี้

Xanthan Gum ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นหนืด สารเพิ่มเนื้อสัมผัส และทำให้อิมัลชันคงตัว