เหมาะสำหรับ
ทุกสภาพผิว
รายละเอียดทั่วไป
โบท็อกซ์แบบทาแก้หน้าหลวม🔥 ดึงริ้วรอยให้ตึง + ดึงรูขุมขนให้ปิดเข้าหากันทัน❗️ที❗️เรื่อง texture ผิวแก่ตัวนี้แก้ครบ วัย 50+ ทาติดกัน 2 วีคผิวยังดีขึ้นได้ถึง 160% เลยแม่
Dr.Melaxin Facephalt Tightening Cream For Full Face
ไม่รู้จะเรียกโบท็อกซ์ดีหรือ Pore Laser ดี 😆เพราะมันเก่ง 2 อย่างในหลอดเดียว แก้หน้าเหี่ยวแบบจึ้ง ได้ทั้งระยะสั้นแบบเห็นผลทันที แต่ผลอยู่แค่ 1-5 ชม.นะ
💕 กับระยะยาวที่ทาต่อเนื่อง 2 วีคขึ้นไป จะ
ช่วยให้ผิวจริงเด็กขึ้นชัดเจน ผลจะอยู่นานแบบไม่ฉาบฉวย อิ๊ฟเปรียบเทียบง่ายๆคล้ายการออกกำลังกายค่ะ
📌📌 ถ้าเราทาเป็นกิจวัตรไปเลยเช้า-เย็น ผิวเราจะเหมือนถูก train ให้แน่นเฟิร์มเรื่อยๆ ผิวค่อยๆเด็กขึ้น เหมือนร่างกายที่แข็งแรงขึ้น
✅ ตัวนี้ปั๊มวอลลุ่มริ้วรอยที่ลึกๆให้ดูตื้น เหมือนโบท็อกซ์โนเข็มจิ้ม❌💉 เน้นลดเลือน 5 ประเภทริ้วรอยแก่ ที่เกิดจากการพับซ้ำๆย้ำเวลาเราแสดงสีหน้า
ผลทา 2 วีค
✔️ รอยหว่างคิ้วจางลง 153.1%
✔️ ริ้วรอยรอบดวงตาจางลง 131.98%
✔️ ริ้วรอยหน้าผากจางลง 141.73%
✔️ รอยพับแก้มจางลง 160.97%
✔️ รอยมุมปากจางลง 157.5%
✅ ในนี้มีสารสกัดที่เรียกว่า Pore Laser และส่วนผสมที่จดสิทธิบัตร ออกฤทธิ์ในการกระชับ ดึงเนื้อเยื่อที่หย่อนยานให้ตึงเลยช่วยเรื่อง “รูขุมขนกว้างจากผิวที่หย่อนคล้อย“ รูขุมขนจะตื้นและเล็กครบทุกมิติ
✅ แถมยังแก้ผิวหลวมได้ดีมากก เติมเต็มพวกริ้วเล็กๆ ทำให้หน้าดูอิ่ม มีวอลลุ่ม คืนความยืดหยุ่นให้ผิวที่สูญเสียคอลลาเจน เหมือนผิวเราเป็นหนังยางที่มันยืดจนหลวมไปหมดแล้ว แต่ตัวนี้มาฟื้นฟูให้กลับมายืดหยุ่นแน่นใหม่
📌📌 อิ๊ฟว่าตอบโจทย์คนอายุ 40+ ที่เริ่มมีริ้วรอย หรือคนที่มีริ้วรอยมานานแล้วไม่ได้บำรุงดูแล แค่ตัวนี้ก็เหมือนได้รับการบูสต์ผิวใหม่แบบเข้มข้น ใช้กับเซรั่ม Anti aging ยี่ห้ออะไรก็ได้ บอกเลยยกผิวย่นให้ตึงฟูเร็วมาก
ส่วนผสมสำคัญ
1,2 Hexanediol
-
ล็อกความชุ่มชื้น
-
ยับยั้งแบคทีเรีย
1,2 Hexanediol
คุณสมบัติหลัก
ล็อกความชุ่มชื้น
ยับยั้งแบคทีเรีย
รายละเอียดทั่วไป
1,2 Hexanediol เป็นตัวทำละลาย ที่ใช้ทดแทน Ethoxydiglycol, Propylene Glycol และ Butylene Glycol สามารถช่วยเก็บกักน้ำได้ดี (water-binding, humectant) และช่วยต่อต้านเชื้อโรคได้ โดยสามารถทำหน้าที่เป็น preservative booster
กลไกการทำงานเป็น Preservative Booster เกิดจาก ลักษณะโมเลกุลของ 1,2-Hexanediol สามารถซึมผ่านเซลล์ของเชื้อโรคต่างๆได้ดี ทำให้สามารถนำพาสารกันเสียชนิดใดๆในสูตร ผ่านเข้าเซลล์ของเชื้อโรคและฆ่าเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัวเองด้วย
ข้อควรระวัง
แนะนำให้ใช้ 3% ร่วมกับสารกันเสียชนิดอื่นๆ โดย 1,2-Hexanediol สามารถช่วยนำพาส่วนผสมต่างๆเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ 1,2-Hexanediol ในสูตรที่ไม่ได้ต้องการให้ส่วนผสมต่างๆในสูตรถูกนำพาเข้าสู่ผิว ตัวอย่างเช่น สารกันแดดเคมี (Chemical Sunscreen หรือ Organic Sunscreen)
Adenosine
-
ลดริ้วรอย
-
ปลอบประโลมผิว
Adenosine
คุณสมบัติหลัก
ลดริ้วรอย
ปลอบประโลมผิว
รายละเอียดทั่วไป
Adenosine เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกายในรูปแบบของ อะดีโนซีน ไตรฟอสเฟต (ATP) เป็นโมเลกุลของคลังเก็บพลังงาน อะดีโนซีนที่พบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนั้นมาจากยีสต์ ช่วยปลอบประโลมผิว ลดริ้วรอย
ข้อควรระวัง
หยุดใช้ทันทีหากมีอาการแพ้
Aqua (Water)
คุณสมบัติหลัก
เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อครีม
ล็อกความชุ่มชื้น
เพิ่มความชุ่มชื้น
รายละเอียดทั่วไป
Aqua (Water) (น้ำหรืออควา) สามารถประกอบเป็นเครื่องสำอางได้ถึง 95% เป็นส่วนผสมที่สำคัญมาก ซึ่งต้องมีคุณภาพสูงมาก และบางครั้งกลายเป็นส่วนผสมหลัก
ข้อควรระวัง
อาการแพ้จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมอื่นในเครื่องสำอาง
Bentonite
คุณสมบัติหลัก
สร้างภูมิคุ้มกันของผิวหนัง
ลดสิว
ลดริ้วรอย
ยับยั้งแบคทีเรีย
เพิ่มความชุ่มชื้น
รายละเอียดทั่วไป
Bentonite (ดินเหนียวเอนโทไนต์) เป็นดินเหนียวธรรมชาติที่ตั้งชื่อตามแหล่งที่พบแหล่งที่ใหญ่ที่สุด คือฟอร์ตเบนตัน รัฐไวโอมิง แป้งเนื้อละเอียดละเอียดนี้ทำมาจากขี้เถ้าภูเขาไฟ และอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ในทางเคมี คืออะลูมิเนียมไฟลโลซิลิเกต ดินเหนียวที่ดูดซับได้ มันมีประจุลบที่ทำให้ดูดซับได้ดีในธรรมชาติ
ดินเบนโทไนต์ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง สิว และโรคผิวหนัง มาสก์ดินเหนียวเหล่านี้มีแร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และซิลิเกต ที่เชื่อว่าช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวให้ดีขึ้น
ข้อควรระวัง
หากรู้สึกระคายเคือง บวม หรือแสบร้อนขณะใช้ดินเบนโทไนต์ ให้หยุดทันทีและปรึกษาแพทย์
Butylene Glycol
คุณสมบัติหลัก
เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อครีม
เพิ่มความชุ่มชื้น
รายละเอียดทั่วไป
Butylene Glycol (บิวทิลลีนไกลคอล) เป็นส่วนผสมที่ใช้กันทั่วไป ในเครื่องสำอาง รวมทั้งเป็นสารให้ความชุ่มชื้น สารเพิ่มเนื้อสัมผัส ตัวทำละลาย และสารเร่งการซึมผ่าน การวิจัยระบุว่าบิวทิลีนไกลคอล ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ยังอาจช่วยลดความหยาบกร้านของผิวด้วย คุณสมบัติบางอย่างของ Butylene Glycol สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรต่อจุลินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวของผิวหนัง
ข้อควรระวัง
มีการใช้ในความเข้มข้นที่หลากหลาย โดยมีรายงานสูงถึง 50% แต่ส่วนใหญ่จะจำกัดไว้ที่ 30%
Centella Asiatica Extract
-
ลดอาการผิวอักเสบ
-
เพิ่มความชุ่มชื้น
-
ปลอบประโลมผิว
-
ต้านอนุมูลอิสระ
-
ซ่อมแซมผิวเสียหาย
Centella Asiatica Extract
คุณสมบัติหลัก
ลดอาการผิวอักเสบ
เพิ่มความชุ่มชื้น
ปลอบประโลมผิว
ต้านอนุมูลอิสระ
ซ่อมแซมผิวเสียหาย
รายละเอียดทั่วไป
Centella Asiatica Extract หรือ ใบบัวบก เป็นสมุนไพรยืนต้นที่เติบโตในเอเชียเป็นหลัก และอาจระบุไว้บนฉลากว่าเป็นกรดเอเซียติก ไฮโดรโคทิล หรือบัวบก เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ยานี้ใช้ได้ทั้งในการปรุงอาหารและยาเช่นเดียวกับสารสกัดจากพืชแบบดั้งเดิมอื่นๆ Centella asiatica ได้รับความนิยมครั้งแรกในเกาหลีใต้
โดยเป็นส่วนประกอบสำคัญในมอยส์เจอไรเซอร์ที่เรียกว่า “cica creams” “ซิก้า” ย่อมาจากคำว่า Centella asiatica และครีมเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการอักเสบ
มีประโยชน์หลายประการสำหรับผิวด้วยสารประกอบที่ออกฤทธิ์ รวมทั้งมาเดคาสโซไซด์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ใบบัวบกยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโน มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ดีในการบรรเทาผิวที่ถูกทำลาย
ข้อควรระวัง
แนะนำที่ความเข้มข้น 5%
Citric Acid
-
ปรับค่าpH/ปรับความคงตัว
-
ผลัดเซลล์ผิว
Citric Acid
คุณสมบัติหลัก
ปรับค่าpH/ปรับความคงตัว
ผลัดเซลล์ผิว
รายละเอียดทั่วไป
Citric Acid กรดซิตริกเป็นสารสกัดที่ได้มาจากผลไม้รสเปรี้ยว และใช้ในปริมาณเล็กน้อยเป็นหลักเพื่อปรับ pH ของผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นด่าง หรือด่างเกินไป กรดซิตริกเป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) ด้วยสูตรและความเข้มข้นที่เหมาะสม จึงสามารถผลัดเซลล์ผิวได้
ข้อควรระวัง
แนะนำที่ความเข้มข้นที่ 20%
Ethylhexylglycerin
-
ยับยั้งแบคทีเรีย
-
เพิ่มความชุ่มชื้น
Ethylhexylglycerin
คุณสมบัติหลัก
ยับยั้งแบคทีเรีย
เพิ่มความชุ่มชื้น
รายละเอียดทั่วไป
Ethylhexylglycerin เป็นสารสังเคราะห์ เอทิลเฮกซิลกลีเซอรีน ยังสามารถใช้เป็นสารกันบูด และเพิ่มประสิทธิภาพของสารกันบูดอื่นๆ เช่น ฟีนอกซีเอธานอล มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำที่ส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย
ข้อควรระวัง
แนะนำที่ความเข้มข้นไม่เกิน 8%
Glycerin
-
ล็อกความชุ่มชื้น
-
ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
-
เพิ่มความชุ่มชื้น
-
ปรับสมดุลผิว
Glycerin
คุณสมบัติหลัก
ล็อกความชุ่มชื้น
ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
เพิ่มความชุ่มชื้น
ปรับสมดุลผิว
รายละเอียดทั่วไป
Glycerin (กลีเซอรีน) หรือที่เรียกว่ากลีเซอรอล เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีอยู่ในไขมันตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ หรือผัก สามารถได้มาจากสารธรรมชาติโดยการไฮโดรไลซิสของไขมันและการหมักน้ำตาล นอกจากนี้ยังสามารถผลิตแบบสังเคราะห์
กลีเซอรีน เป็นส่วนประกอบที่ช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูผิว ซึ่งหมายความว่าเป็นสารที่พบในผิวหนังตามธรรมชาติ ช่วยสร้างสมดุล และความชุ่มชื้นตามปกติ ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ทำงานเพื่อรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิว
ข้อควรระวัง
แนะนำที่ความเข้มข้น 10%
Hydroxypropyl Methylcellulose
Hydroxypropyl Methylcellulose
คุณสมบัติหลัก
ปรับค่าpH/ปรับความคงตัว
เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อครีม
รายละเอียดทั่วไป
Hydroxypropyl Methylcellulose หรือ HPMC สามารถละลายในน้ำ เนื่องจาก HPMC เป็นพอลิเมอร์จึงสร้างฟิล์มเมื่อทำให้แห้ง คุณสมบัตินี้ทำให้ส่วนผสมนี้มีประโยชน์มากในฐานะสารยึดเกาะ อิมัลซิไฟเออร์ สารลดแรงตึงผิว สารเพิ่มความคงตัว สารยึดติด และในการควบคุมทั่วไปของความหนืดของผลิตภัณฑ์ HPMC ส่วนใหญ่จะใช้ใน สบู่อาบน้ำ ครีมกันแดด แชมพู และน้ำยาทำความสะอาดที่มีความเข้มข้นต่ำ
ข้อควรระวัง
โดยทั่วไปใช้ในความเข้มข้นน้อยกว่า 5% แต่พบว่ามีการใช้ในระดับสูงถึง 36% ในมอยส์เจอไรเซอร์และครีมกลางคืน (Cosmetic Ingredient Review)
Niacinamide
-
ล็อกความชุ่มชื้น
-
ลดสิว
-
ลดริ้วรอย
Niacinamide
คุณสมบัติหลัก
ล็อกความชุ่มชื้น
ลดสิว
ลดริ้วรอย
รายละเอียดทั่วไป
Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ออกเสียงง่าย อย่างวิตามินบี 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่ม วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) หรือที่เรียกว่า Niacin (Nicotinic acid) เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวของเรา ที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม
ตั้งแต่ช่วยลดริ้วรอย และรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดง และอาการระคายเคืองบนผิว ไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีผิวมัน อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว
ข้อควรระวัง
หากปริมาณ Niacinamide เกิน 5% อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองในผิวแพ้ง่ายได้
Pullulan
-
ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
-
เพิ่มความชุ่มชื้น
-
ต้านอนุมูลอิสระ
Pullulan
คุณสมบัติหลัก
ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
เพิ่มความชุ่มชื้น
ต้านอนุมูลอิสระ
รายละเอียดทั่วไป
Pullulan เป็นพอลิเมอร์เส้นใยธรรมชาติที่ผลิตโดยยีสต์ดำชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Aureobasidium pullulans ประกอบด้วยน้ำตาลเชิงซ้อนที่เรียกว่าพอลิแซ็กคาไรด์ ซึ่งทำให้เป็นสารยึดเกาะที่ดี (เช่น ความชุ่มชื้น) และสารต้านอนุมูลอิสระในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพในการช่วยเสริมสร้างไมโครไบโอมของผิว
ข้อควรระวัง
หยุดใช้ทันทีหากมีอาการแพ้
Xanthan Gum
คุณสมบัติหลัก
ปรับค่าpH/ปรับความคงตัว
เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อครีม
รายละเอียดทั่วไป
Xanthan Gum เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยโมเลกุลน้ำตาลหลายโมเลกุลที่เกาะติดกัน ผลิตจากการหมักน้ำตาลอย่างง่าย กระบวนการหมักใช้แบคทีเรีย Xanthomonas campestris ซึ่งเป็นที่มาของชื่อส่วนผสมนี้
Xanthan Gum ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นหนืด สารเพิ่มเนื้อสัมผัส และทำให้อิมัลชันคงตัว
ข้อควรระวัง
หยุดใช้ทันทีหากมีอาการแพ้
ส่วนผสมทั้งหมด
Purified Water • Pullulan • Calamine • Bentonite • Glycerin • Niacinamide • Methylpropanediol • Hydroxypropyl Methylcellulose • Xanthan Gum • Citric Acid • Ethylhexylglycerin • Butylene Glycol • Polylactic Acid • Caprylhydroxamic Acid • Adenosine • Porphyridium Cruentum Extract • 1,2-Hexanediol • Lemon Balm Leaf Extract • Eggplant Fruit Extract • Common Jasmine Extract • White Willow Bark Extract • Hydrolyzed Sponge • Centella Asiatica Extract • Hydrolyzed Collagen Extract
วิธีใช้
ขั้นตอนที่ 1
-หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้ทาบำรุงด้วยสกินแคร์ Routine ที่ใช้เป็นประจำ ทาบำรุงเป็นลำดับแรกจนครบ
ขั้นตอนที่2
- หลังจากทาบำรุงด้วยสกินแคร์อื่นๆเรียบร้อยแล้ว ให้ทา
Dr.Melaxin Facephalt Tightening Creamในปริมาณที่เหมาะสม โดยเริ่มจากบริเวณที่มีกังวลเป็นพิเศษและจึงค่อยๆทาให้ทั่วใบหน้า ถูในทิศทางเดียวกัน ห้ามถูวน
ขั้นตอนที่3
- หลังจากทาครีม Dr.Melaxin Facephalt Tightening แล้วให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว หรือขมวดคิ้วประมาณ 2นาที ในขณะที่ครีมกำลังซึมซาบ ซึ่งอาจจะรู้สึกตึงๆได้
✳️แนะนำให้ใช้ทาบำรุงเพียงวันละ 1 ครั้ง ในช่วงกลางคืนเท่านั้น และเน้นทาครีมกันแดดบำรุงในช่วงตอนเช้าด้วยนะคะ
✳️ไม่ควรใช้ในปริมารที่มากเกินไปหรือทาลงบนผิวที่แห้ง เนื่องจากอาจจะทำให้เนื้อครีมไม่สามารถซึมลงสู่ผิวได้