Retinol คืออะไร ? ส่วนผสมยอดฮิต ที่ดีต่อผิว ดีต่อใจวัยทำงาน 

Retinol คือ อนุพันธ์สังเคราะห์ของวิตามินเอ ถือว่าเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ตอบโจทย์วัยทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

เพราะช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ พร้อมปรับผิวให้กระจ่างใส

Retinol คือ

Retinol คือ อนุพันธ์สัฟงเคราะห์ของวิตามินเอ เป็นหนึ่งในส่วนผสมในการดูแลผิวที่รู้จักกันดีที่สุดในตลาด ใช้ในการรักษาปัญหาผิว เช่น ริ้วรอย และสิว เรตินอล คือ เรตินอยด์ชนิดหนึ่งซึ่งทำมาจากวิตามินเอ โดยโมเลกุลเล็ก ๆ ที่ประกอบเป็นเรตินอล จะซึมลึกจากชั้นนอกของผิวหนัง ไปสู่ผิวหนังชั้นใน

Retinol ช่วยอะไรบ้าง ?

เมื่อเรตินอลซึมลึกไปในชั้นกลางของผิว จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการผลิตอีลาสติน และคอลลาเจน ซึ่งสามารถลดริ้วรอย และรูขุมขนกว้างได้

สามารถใช้รักษาสิวที่รุนแรง โดยมักจะรักษาโดยใช้เรตินอยด์ที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ควบคู่ไปกับยาอื่น ๆ เพื่อช่วยลดการอักเสบ และแบคทีเรีย

ปรับผิวหมองคล้ำให้สว่างขึ้นด้วยการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะเผยผิวใหม่ที่สดใส และเรียบเนียน

ช่วยควบคุมความมันของผิว ลดการเกิดสิว ลดจุดด่างดำที่เกิดจากวัย และแสงแดด ช่วยให้รอยดำจางลง พร้อมทั้งช่วยปรับให้สีผิวสม่ำเสมอ

ควรเริ่มใช้ Retinol เมื่ออายุเท่าไร ?

ไม่มีอายุที่ถูกหรือผิดในการที่จะเริ่มใช้เรตินอล แต่แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้เรตินอลในขั้นตอนการดูแลผิว ในช่วงอายุ 20 ปี เพราะการผลิตเส้นใยคอลลาเจนเริ่มลดลง โดยคอล

ลาเจนช่วยรักษาผิวที่เรียบเนียน อวบอิ่ม ซึ่งการสูญเสียคอลลาเจนสามารถ ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ สามารถใช้ retinol เพื่อช่วยในการปรับสภาพก่อนวัยหรือป้องกัน สัญญาณแห่งวัย ด้วยการกระตุ้นให้เส้นใยของเราสร้างคอลลาเจนในผิวหนังเพิ่มขึ้น

แนะนำการเริ่มต้นใช้ Retinol : ควรเริ่มใช้จากผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำ เพื่อลดการระคายเคืองผิว โดยแนะนำให้เริ่มต้นด้วย retinaldehyde ซึ่งเป็นหนึ่งในสูตร retinoids ที่อ่อนโยนที่สุด หรือ retinyl palmitate ที่อ่อนโยนมากเช่นกัน ซึ่งทั้งสองสูตรนี้จะยังคงให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลได้ชัดเจนภายใน 2-3 เดือนโดยไม่ทำให้ผิวหนังไหม้ ด้วยความที่เรตินอยด์มักดูเหมือนมีผลข้างเคียง เช่น ความแห้ง ความตึง การลอก และรอยแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มใช้ครั้งแรก แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะบรรเทาลงหลังจากผ่านไป 2-4 สัปดาห์ จนกว่าผิวหนังจะปรับตัวได้

วิธีใช้ Retinol 

1. หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าตอนกลางคืนแล้ว รอให้ผิวแห้งสนิทแล้วจึงทาเรตินอล เพราะผิวที่เปียกชื้นอาจทำให้การดูดซึมเรตินอลไม่ดีเท่าที่ควร หรือทำให้ระคายเคืองได้ 

2. ใช้นิ้วเกลี่ยเรตินอลให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากหน้าผากก่อน จากนั้นจึงค่อยไปที่จมูก แก้ม และคาง 

ผู้ที่ผิวแข็งแรง : หลังจากผ่านไป 20 นาที ให้ทาเซรั่ม และมอยซ์เจอไรเซอร์ตามปกติ 

ผู้ที่มีผิวบอบบาง : สามารถทามอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนการทาเรตินอลได้ จากนั้นรอ 20 นาที แล้วจึงทาเรตินอล

Retinol ห้ามใช้กับอะไร

Retinol + Vitamin C : เนื่องจากทั้งสองส่วนผสมทำงานได้ดีในค่า pH ที่แตกต่างกัน จึงควรแยกใช้คนละช่วงเวลา 

Retinol + AHA BHA : เพราะกรด AHA และ BHA ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง และทำให้เกิดการระคายเคืองมาก หากขั้นตอนการดูแลผิวของคุณมีเรตินอลอยู่แล้ว เรตินอล จะสร้างคอลลาเจนและช่วยซ่อมแซมผิว ดังนั้นจึงควรสลับกันใช้

Retinol + Benzoyl Peroxide : โดย Dr. Lortscher อธิบายว่าผลิตภัณฑ์ที่มี Benzoyl Peroxide อาจยับยั้งประสิทธิภาพของ Retinol หากผสมเข้าด้วยกันในขวดเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าจะทำงานได้ดี เมื่อทาลงบนผิวทีละตัว โดยทาให้ซึมลงผิวดีก่อนที่จะใช้อีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

Retinol ข้อควรระวัง : ผลิตภัณฑ์เรตินอลส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่อาจต้องใช้ตามคำแนะนำ ซึ่งมีผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระยะสั้น เช่น ผิวแห้งผิวลอก ความไวต่อแสงแดด  ในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลอกและความแห้งกร้าน ปริมาณที่แนะนำคือหยดขนาดเท่าเม็ดถั่วสำหรับทาทั่วใบหน้า

ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับ Retinol

1. ใช้ Retinol ทำให้ผิวบางลง : หลายคนคิดว่า Retinol ทำให้ผิวบางลง แต่ความจริง Retinol กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน จึงช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่

2. Retinol ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด : จริง ๆ แล้ว Retinol สลายตัวในแสงแดด ทำให้ไม่เสถียร และมีประสิทธิภาพน้อยลง นี่คือเหตุผลที่ต้องบรรจุในหลอดโลหะ หรือภาชนะทึบแสง และแนะนำให้ใช้ในเวลากลางคืน

ส่วนผสมที่คล้าย Retinol

Carotenoids หรือ แคโรทีนอยด์ เป็นประเภทของวิตามิน A ซึ่งจะถูกแปลงเป็นเรตินอลในร่างกายตามความจำเป็น มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ โดยการป้องกันความเสียหายของเซลล์ และยังช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้

Bakuchiol พบได้ในเมล็ดและใบของต้น Babchi หรือที่เรียกว่า Psoralea Corylifolia เป็นสารสกัดจากพืช เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและเรียกว่า "สมุนไพรทดแทนโบท็อกซ์" หรือ "เรตินอลแบบธรรมชาติ" แพทย์ผิวหนังให้ความเห็นว่าช่วยเพิ่มความกระชับ และความยืดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยในเรื่องการผลิตคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้รอยดำ ความลึกของริ้วรอยลดลง ทั้งยังต้านอักเสบ ลดสิว นอกจากนี้ยังเป็นสารสกัดจากพืช ในขณะที่เรตินอลบางชนิดอาจมาจากสัตว์

Retinol ยี่ห้อไหนดี ?

The Ordinary Retinol 0.5% in Squalane 30ml : ปรับผิวให้เรียบเนียน ลดรอยแผลจากสิว จางริ้วรอย รูขุมขนตื้น ลดความหมองคล้ำ รอยแดงจากสิว ด้วยเรตินอลสูตรอ่อนโยน

• จางริ้วรอย ปรับรูขุมขนกระชับ

• ลดผิวหมองคล้ำ พร้อมปรับผิวเรียบเนียน 

• ลดรอยดำ รอยแดง แผลจากสิว 

The Organic Pharmacy Retinol Night Serum 30ml : เซรั่มสูตรเน้นความเนียน ลดผิวแก่ ลด aging sign ต่างๆได้สูงสุด 50% เพียงใช้ตอนกลางคืนต่อเนื่อง 1 เดือน เร่งสปีดปริมาณคอลลาเจนในผิว ปั๊มอัพผิวฝ่อเหี่ยว รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยให้ยกตัว ผิวแน่นจนเรียบเนียน จางตำหนิผิว ผลัดจุดด่างดำ ริ้วรอยตื้น ความไม่สมูทจะถูกปรับให้เนียนละมุนตา

• เร่งสปีดปริมาณคอลลาเจนในผิว ให้ผิวแน่นจนเรียบเนียน

• ปั๊มอัพผิวฝ่อเหี่ยว รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยให้ยกตัว

• จางตำหนิผิว ลดจุดด่างดำ ปรับผิวกระจ่างใส

PALMER'S Anti-Dark Spot Fade Cream, For All Skin Types 75g: ครีมทาผิวหน้าสูตรสำหรับใช้ได้ทุกสภาพผิว สูตรนี้ไว้ใเรื่องความขาวได้เลย งานผิวเกลี้ยง ผิวใส เนียนละเอียดมาจ้า ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิว มีงานวิจัยและการันตีผลลัพธ์ด้วยทีมแพทย์ระดับโลก เพิ่มวิตามินอีและ ceramide ที่ทำให้ครีมอ่อนโยนเหมาะกับผิวหน้ามากขึ้น ช่วนเรื่องริ้วรอยเพิ่มขึ้น หน้านุ่มเนียนใส ใช้ได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน

• ลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

• มีส่วนผสมจาก Niacinamide 5% ช่วยเรื่องความขาว กระจ่างใสโดยตรง

• อ่อนโยนเหมาะกับผิวหน้า ช่วยเรื่องลดริ้วรอย หน้านุ่มเนียนใส

PALMER'S Skin Success Anti-Dark Spot Nighttime Fade Cream 75g :  ครีมทาผิวหน้าสูตรทาเฉพาะตอนกลางคืน เน้นเรื่องความกระจ่างใส ปรับผิวสว่าง ลดจุดด่างดำ ให้ผิวเรียบเนียน ผิวสม่ำเสมอ เป็นสูตรขายดีใน USA ค่ะ รีวิวจากผู้ใช้ดีมากๆ สูตรนี้เพิ่มส่วนผสมพิเศษเข้มข้น เพื่อจางรอยสิว รอยดำที่เป็นมานานโดยเฉพาะ ใครสิวหายแต่รอยยังอยู่มานานนับปี โบกคุณน้องคนนี้ทุกคืน รอยสิวหายว๊าบบ

• ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ปรับผิวสว่าง ลดจุดด่างดำ ให้ผิวเรียบเนียน

• สูตรทาตอนกลางคืน เพิ่มส่วนผสมพิเศษเข้มข้น เพื่อจางรอยสิว รอยดำที่เป็นมานาน

• เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

อ้างอิง

https://www.marthastewart.com/8233030/what-age-start-using-retinol

https://www.doctoranne.de/bakuchiol-vs-retinol-which-one-is-best-for-you/

https://www.cosmeticsandtoiletries.com/cosmetic-ingredients/actives/article/21836757/carotenoids-in-skins-defense

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/3530430/

https://www.instyle.com/beauty/mixing-skincare-ingredients#:~:text=Don't%20Mix%3A%20Retinol%20with,they%20cancel%20each%20other%20out.

https://stylecaster.com/beauty/how-to-use-retinol/

https://www.today.com/style/what-retinol-retinol-benefits-uses-side-effects-more-t150639

https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-does-retinol-work#takeaway

https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/retinoid-benefits